วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

แม่แห่งแผ่นดิน



บางครั้ง..ความฝันมักเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน
ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้รับใช้สนองพระเดชพระคุณ..แม่ของแผ่นดิน

เมื่อได้รับโอกาสก็รีบคว้าไว้และตั้งใจตามจิตปณิธาน

หลายเดือนที่ผ่านมา พยายามเดินตามความตั้งใจ
แม้สะดุดเซถลาบ้าง แต่ยังพอมีกำลังใจฉุดให้เดินต่อไปได้อย่างราบรื่น

"แม่ของแผ่นดิน" สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ มีพระราชดำริก่อตั้งโครงการฟาร์มตัวอย่างฯบ้านน้ำดำ ปัตตานีและอีกหลายๆ ฟาร์มในจังหวัดภาคใต้และสามจังหวัดชายแดนฯด้วยพระเมตตาเพื่อช่วยเหลือประชาชนของพระองค์ให้ดำรงชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยและเข้มแข็งท่ามกลางปัญหาความไม่สงบ ท่ามกลางความเป็น ความตายของประชาชน
โดยพระองค์ท่านไม่เลือกชนชั้นหรือศาสนาใดๆ

โครงการฟาร์มตัวอย่างฯบ้านน้ำดำ ตั้งอยู่ ม.๓ ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก ปัตตานี อยู่ในวงล้อมของพี่น้องชาวมุสลิมผู้นับถือศาสนาอิสลาม แม้จะเป็นพื้นที่สีแดง แต่เรายังคงมีสัมพันธภาพที่ดีงามต่อกัน ยังคงทำงานร่วมกัน ยังคงทำมาค้าขายด้วยกัน ยังคงเป็นเพื่อนบ้าน ชุมชนที่ใกล้ชิดและพึ่งพาอาศัยกันในหลายๆเรื่อง

ทุกคนที่ฟาร์มแห่งนี้มีความภาคภูมิใจเสมอที่ได้ทำงานรับใช้พระองค์ท่าน

..ลุงน้อย..คนเลี้ยงวัวชายชราที่รักวัวของท่านยิ่งกว่าอะไร

วันหนึ่งวัวที่ลุงน้อยดูแล หลุดไปกินข้าวโพด เมื่อเรียกลุงน้อยไปว่ากล่าว
ลุงน้อยบอกว่า..ไม่เป็นไร..วัวแม่ กินข้าวโพดแม่ แม่ไม่ว่า

หัวหน้าในคณะทำงานฯมักย้ำกับเราเสมอ..ไล่ใครออกไม่ได้หากไม่มีความผิดขั้นร้ายแรง
ดังนั้นในฟาร์มจึงมีคนทำงานหลายประเภท ทั้งคนปกติ คนไม่ปกติทั้งจิตใจและร่างกาย หากเพียงทำงานได้บ้างเราก็ยังคงเลี้ยงดูตามพระราชประสงค์ของพระองค์ท่าน

บางคนจำเป็นต้องใช้ยาบำบัดจิตอยู่ตลอดเวลา..บางคนเจ็บป่วยไม่สามารถทำงานได้แล้วแต่ยังคงจ่ายค่าแรงเป็นค่าเลี้ยงดู บางคนอายุมากกว่า ๗๐ ปีบวกกับยังเมาสุราไม่เว้นแต่ละวัน แต่เขายังต้องการทำงาน..บ้างก็เป็นออทิสติก บ้างก็ล้น บ้างก็ขาด บางทีการพูดคุยกับคนเหล่านี้..เราเองก็ถามตัวเองเหมือนกัน..แล้วเราละปกติอยู่หรือไม่

แม่ของแผ่นดิน..พระองค์ท่านทรงห่วงใยลูกๆทั้งแผ่นดินดุจแม่ห่วงใยลูกเสมอ

เราทุกคน ณ ผืนดินแห่งนี้จึงยังคงมีความสุขและตั้งใจทำงานสนองพระเดชพระคุณพระองค์ท่าน
ด้วยหัวใจและชีวิต

วันศุกร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2556

ปรุง(จิต)ให้ทุกข์ทำไม?


ความเงียบเกิดขึ้นรอบตัวและหัวใจ

ความวังเวงปรุงแต่งให้จิตพะว้าพะวง

เราค่อนข้างจะสับสนในตัวเอง บางครั้งเหมือนจะยับยั้งความคิดและความรู้สึกที่่หมุนวน
บ้างก็ดีๆ บ้างก็ร้ายๆ ให้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการคิดดีแต่ทำได้ยากเสียจริง

ระหว่างนี้สัมผัสอยู่กับความหลากหลายของผู้คน เต็มไปด้วยตัวกิเลส
เราก็มีมันอยู่ไม่น้อย เมื่อตัวกิเลสลอยวนอยู่รอบตัว
เราเองเหมือนจะอ่อนไหวและอ่อนแอกับตัวกิเลสเหล่านั้น
สัมผัสได้ รับมากอดมันไว้ บางครั้งรับมาและโต้ตอบด้วยโทสะ..เพราะโมหะกระจายอยู่เต็มหัวใจ

ความอ่อนไหวและความอ่อนแอในตัวเอง
เป็นอุปสรรคอย่างยิ่งใหญ่ในการก้าวเดินตามจิตปณิธาน
ความอ่อนไหวและความอ่อนแอ..มักทำให้เราสะดุดขาตัวเองล้มลุกคลุกฝุ่น

บางครั้งบาดเจ็บฝากรอยแผลไว้เตือนความทรงจำ
หลายครั้ง..เดินหลงวนกลับไปสู่วังวนเดิมๆ และเจ็บปวดซ้ำบนรอยแผลเก่า

และวันนี้..จิตเริ่มอ่อนแออย่างหนัก
เริ่ม..พิจารณาตัวเองเป็นคนปัญญาอ่อน อ่อนปัญญา เพราะไม่มีสติ
(คงเป็นดังนี้จริงๆ เมื่อพิจารณาอีกทีคงไม่มีใครนั่งว่าตัวเองได้)

ฟ้าเปลี่ยนสี เวลาหมุนวนเช้าค่ำ แต่..
สิ่งที่จิตนึกคิดลงมือทำแล้ว บ่อยครั้งไม่สามารถแก้ไขได้อีก 
แม้จะร่ำให้จนน้ำตาเหือดหายก็ตาม
จะเดินสายขอพรพระก็มิใช่ศรัทธา...ได้แต่พยายามตั้งจิตให้มั่น..
บอกตัวเองซ้ำๆ บ่อยๆ ถามตัวเอง..ซ้ำแล้วซ้ำอีก...ลมหายใจตัวเองอยู่ที่ใด
เข้าๆ ออกๆ อย่าให้สูญเปล่า จะยุบหรือพอง ช้าหรือเร็ว ก็พยายามให้รู้ตัวไว้

........เพื่อให้ปลอดภัยจากทุกข์และกอดความสุขไว้นานๆ

วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2556

ธรรมชาติของจิต





เคยรู้สึกดีๆและต่อมารู้สึกแย่ๆ กับใครสักคนไหม?
เคยรู้สึกแย่ๆและต่อมารู้สึกดีๆ กับใครบางคนบ้างไหม?

บางครั้งได้นั่งทบทวนความคิดของตัวเอง
..รู้สึกเสียใจและเสียดาย..กับเวลาที่เสียไป กับความรู้สึกเหล่านั้น

และคิดได้ว่า..จะเสียเวลากับสิ่งดีๆ หรือแย่ๆ เพื่ออะไร?
เพราะ..ไม่ช้าก็เร็ว..สิ่งทั้ง ๒ คนทั้ง ๒ ต่างผ่านมาแล้วก็จากไป

คล้ายจะอ่านจิตตัวเองและทำใจได้นะ..คล้ายจะเข้าใจธรรมชาติของจิต

แต่ปรากฎว่า...

บ่อยครั้ง..หลงวนทางเข้าไปทักทาย..หลงคิดว่าเป็นความงดงาม
และละจากมา..พร้อมกับความเสียใจ

.....บางครั้งความสุขอยู่กับเรายาวนาน
.....แต่หลายครั้งความทุกข์อยู่กับเรานานกว่า



ภาพถ่าย จากเขาหลวง จ.สุโขทัย