วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557

กลับไปเยี่ยม ไปเยือน



นานมากทีเดียว สำหรับการทิ้งร้างห่างหาย ไปจากบ้าน(Mblog)อันอบอุ่นหลังนั้น

เหตุผล สั้นๆ ง่ายๆ คือ ไม่มีเวลา คำอ้าง สุดฮิต

อันที่จริง..ชีวิตมีอะไรมากมายกว่าคำๆนั้น

เรื่องราวที่ผ่านเข้ามา ทั้ง เรื่องสุข เรื่องเศร้า ปะปน จนบางที สับสนในตัวเอง…

…ฉัน ควรร้องให้ หรือ หัวเราะดีหนอ

ชีวิต มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ


แวะเข้าไป พี่น้อง เก่าๆ ที่เคยพูดคุยทักทายยัง บางคนคงมั่นคงกับบ้านหลังนี้

ดังนั้น เมื่อย้อนกลับไปอ่านเรื่องราวเก่าๆ ของวันวาน

เรื่องราวการทักทาย พูดคุย….ทำให้รู้สึก บรรยากาศคุ้นเคย และอบอุ่นหวนกลับมาอีกครั้ง

และที่รู้สึกมากกว่านั้นคือ ..แปลกและแตกต่างมากมาย จนทำให้รู้สึกเหมือนคนหลงป่า คือ..

สภาพบ้าน(Mblog)เปลี่ยนแปลงไป เปลี่ยนจนฉันรู้สึกงงงัน เมามึน ไปไม่ถูกทีเดียว

หากจะต้องกลับมาปัดฝุ่น เก็บกวาด สร้างสรรค์เรื่องราวอีกครั้ง

คงต้อง…ทำความรู้จักกันใหม่ คงต้องทำความเข้าใจกันสักพัก

กว่าจะกลายเป็นบ้านที่คุ้นเคยหลังเดิม


....ครั้นเมื่อแวะเข้าไปบ่อย วนรอบบ้านหลายรอบ ก็ยังมึนๆ งงๆ ทำอะไรไม่เป็น

จึงตัดสินใจว่า..คงต้องย้ายเรื่องราววันเก่าๆ ออกมาเสียแล้ว


ขอบคุณภาพ จากอินเตอร์เนต

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ละออง ของความรัก ที่จางหาย





นับเป็นเรื่องราวเก่าๆ..ที่เขียนเก็บไว้..เนิ่นนานมาแล้ว(อีกเรื่อง)

ในวัน..ว่างเปล่า..แต่รุมเร้า

เรื่องราว..มากมาย หวั่นไหว..วุ่นวายวันนั้น



และเมื่อวันเวลาล่วงเลย

หลายสิบหลายอย่างผ่านมาและผ่านเลยไป

ใครหลายคนเดินทางมาทักทาย

บางคนหยุดพักระหว่างทางพูดคุย

เป็นกำลังใจและปลอบประโลม

บางคนแค่ผ่านมาและผ่านเลยไป



เมื่อเวลาล่วงแล้วเลยผ่านไป

เรื่องราวในอดีต ที่เคยร้าวราน รุกล้นในใจ

ได้ถูกหลงลืมไปพร้อมๆกัน

จนเจ้าตัวเองก็เพลิดเพลิน

ลืมเลือนวันเจ็บปวดได้อย่างไม่รู้ตัว

เมื่อวันเวลาเดินทางมาไกลถึงคราวนี้

เยื่อใยของความปรารถนาดี ห่วงหาอาทร

ความคิดถึงคะนึงหาอย่างเหลือล้น

จางหายไปไม่มีเหลือ..

แม้แต่กลิ่นไอและละออง..ของความรัก.



บันทึกต้นฉบับ http://mblog.manager.co.th/warintirak/th-58515/

ความรัก มักเป็นเรื่องแปลก ที่เกิดขึ้น และ จบลงได้ตลอดเวลา 
จะดีหรือร้าย..ไม่มีใครกำหนด..ความรักได้เลย

ขอบคุณภาพสวยจาก Pin it
http://www.pinterest.com/pin/303641199849861667/

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ใจเจ้าเอย



วันนี้รู้สึกหน่ายกับเรื่องราวอะไรต่ออะไรมากมาย...ชีวิต และ ความรัก อุ๊บบบ...มีจริงหรือ?


คิดถึงวันวาน คิดถึงเรื่องราวที่เคยเขียนไว้ที่ Mblog 

ไปรื้อ ไปค้น ตกแต่งเพจเสียใหม่ ทั้งที่ทิ้งไปนานหลายปีแล้ว 

ต้องขอบคุณ Admin ของ Mblog ที่ยังคงเก็บบันทึกต่างๆ ของฉันไว้ 

...ขออนุญาตคัดลอกบางบทความมาวางไว้ที่นี่ เผื่อว่าวันหนึ่ง บางสิ่งบางอย่างหายไป

อย่างน้อยก็ยังมีอดีตให้ได้คิดถึง



ในวันที่เราหยุดนิ่ง...ไม่ไหวหวั่นกับเรื่องใด ดูคล้ายเราจะเป็นสุขกับความสงบของใจ.

เมื่อวันหนึ่ง…วันนั้นที่เราดิ้นรน ตะเกียกตะกาย บินออกจากรัง 

บรรยากาศเปลี่ยนไป บางทีอากาศข้างนอกร้อนอ้าว บางทีเหน็บหนาวในใจ 

บางทีแดดแรงร้อนรุมสุมใจ…แต่บางครั้งเสมือนมีน้ำเย็นรดชุ่มชื้น 

ทั้งร้อนรุมสุมใจ ทั้งเหน็บหนาวในบางครา สรุปว่าอบอุ่นกำลังพอดีในทุกๆวัน



         อืม..ใจคนนี่นะ ช่างกระตือรือร้นซุกซนชนทุกเรื่อง 

มาวันนี้…ความซุกซนของใจ…เกิดเรื่องเกิดราวเข้าจนได้

 เราจะเรียกว่าอะไรดีนะ…เมื่อเรื่องไม่เป็นเรื่องเกิดขึ้น…

 เมื่อเรื่องโง่ๆของคนช่างสร้างฝัน เกิดขึ้นในโลกของความฝัน

แต่ยังเฝ้าวาดฝันในวิมานว่า..คือความจริง

ช่างน่าตลกขบขันตัวเองนักหนา

เมื่อถึงวันนี้ ฝันนั้น มันไม่ใช่ความจริง

 ฝันนั้นมันก็แค่ความฝัน..



เมื่อวันใหม่มาเยือน แสงแดดอุ่นๆส่องมาปลุกและเตือน

 ให้ตื่นจากภวังค์

ภวังค์ที่โดดเดี่ยวเหมือนที่เคย (เศร้าจัง)

 สุดท้าย เช้า สาย บ่ายค่ำ คงต้องเก็บใจไว้ในที่ๆปลอดภัย

 ในบรรยากาศที่อบอุ่นกำลังพอดี

 ไม่ซุกไม่ซน ไม่ตะกายออกไปหาฝันให้กระเจิดกระเจิง


อย่างเช่นที่เป็น ขอใจเก็บไว้ในที่สงบๆ สักพักหนึ่ง นะใจเจ้าเอย.

.......................

นี่คือ ความรู้สึกเมื่อปี ๒๐๐๙ 

ณ วันนี้ ๒๙ สิงหาคม ๒๐๑๔ อารมณ์ ความรู้สึกบางอย่างไม่ได้แตกต่างกัน

เกิดขึ้น ดับไป และเกิดขึ้นอีกครั้ง..




Warintirak….บันทึก

ขอบคุณภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต

วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เมื่อตะวันยิ้มฉันก็จะยิ้ม

ขอบคุณภาพจาก บอร์ด Trekkingthai "ฝนละเมอ"


เสียงเม็ดฝนยังคงดังเปาะแปะอยู่ด้านนอก
เสียงภายในบ้านฉันสงบจากสิ่งบันเทิงใดๆ
แต่เสียงภายในหัวใจฉันระรัวด้วยอารมณ์ที่กำลังต่อสู้กันเอง

......ทั้งรักและชัง...
ทั้งอยากหลีกหลบหนีไปจาก..ผู้คนที่รายล้อมอยู่มากมายหรือใครสักคน

บ่อยครั้งที่อยากหนีความตั้งใจเดิมๆ 
อยากทำงานเพื่อส่วนรวม เพื่อให้สังคมได้อยู่อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
แต่บางที..หลายสิ่งหลายอย่าง และคนบางคน ผ่านมากระทบจิต
ให้สะเทือน สั่นไหว และอยากเดินจากไป

บางครั้ง ความเข้มแข็งที่เคยมีมันเปราะและบางเบาจนหวั่นไหว
น้ำตา..ช่วยชะล้างและปลอบโยนบ้างในบางที
แม้จำต้องลุกขึ้นสู้..และมันก็ผ่านไปได้อีกสักครั้ง
ก็ยังมีอีกวัน..ที่ฉันแอบสะอื้นให้กับความอ่อนแอของตัวเอง

เสียงเม็ดฝนเงียบสงบลงพร้อมๆกับเสียงสะอื้นของตัวเอง

หมดเวลาของสายฝน
หมดเวลาของความเศร้าหมอง

เมื่อแสงตะวันโผล่มายิ้ม
ฉันก็พร้อมจะยิ้มทักทายผู้คนอีกครั้ง

วันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เก็บบันทึกวันวานใส่BLOG




บางสิ่ง ที่เห็นและเป็นอยู่..ใช่ว่าจะรับได้นะ
แต่บางที..ที่ยังวางเฉยบ้าง ไม่ใช่ไม่รู้สึกรู้สา
เพียงแต่ฝึกที่จะอดทนและถอยมายืนในระยะที่ปลอดภัย เท่านั้นเอง.

บันทึก ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗

ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต



นอกจากเวลาที่ผ่านไปวันแล้ว วันเล่า
นอกจากการเดินผ่านผู้คนมากมาย...การเก็บเกี่ยวเรื่องราวระหว่างทาง
การได้บันทึก..เวลาและผู้คนไว้ในความทรงจำ
บางที..ก้าวผ่านไปบ้าง บางทีหยุดพักทักทาย และเก็บความรู้สึกดีๆ ไว้อมยิ้มในวันว่างๆ
หรือแม้แต่บางที..กอดความเศร้าไว้มากเกินความจำเป็น
....สิ่งต่างๆ เหล่านั้น เก็บไว้เป็นทุน เพื่อก้าวต่อไป
เพื่อปรับจิตให้สมดุล..
เพื่อปรับทุกความเคลื่อนไหว..ให้สงบภายใต้ความเลวร้ายของคนในสังคม

...มองคนรอบข้างอย่างมีสติ แล้วจะมองเห็น..ธรรมะ-ชาติ 
กิเลสที่ฝังตัวอยู่อย่างเหนียวแน่นอยู่อย่างนั้น
..จิตที่โกรธ เกลียดชัง ของเราจะลดความรุนแรงด้วยความเข้าใจธรรมะ-ชาติของแต่ละคน....
และบางทีอาจกลายเป็นเวทนาเขา ซึ่งนั่นก็ฟังดูน่ากลัว 
เพราะ มันย้อนกลับมาทำร้ายเราเสียเอง....
การใช้ศิลปะ ในการอยู่อย่าง สงบและนิ่งตลอดเวลา 
จึงยากหากตามจิตตัวเองไม่ทัน

บันทึก ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗