วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554

พระราชดำรัสเกี่ยวกับความสุขในการดำเนินชีวิต






เนื่องในวโรกาส วันพ่อแห่งชาติ วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔
แผ่นดินนี้เราจองขอร่วมเผยแพร่พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพแด่องค์ภูมิพล อดุลยเดช


********************************


.จิตใจและความประพฤติที่สะอาดและมีระเบียบ เป็นรากฐานสำคัญของชีวิต ทั้งจิตใจทั้งความประพฤติดังนั้นใช่จะเกิดมีขึ้นเองได้ หากแต่จำต้องฝึกหัดอบรมและสนับสนุนส่งเสริมกันอย่างจริงจังสม่ำเสมอ นับตั้งแต่บุคคลเกิด ดังที่มนุษย์ไม่ว่าชาติใดภาษาใดได้เฝ้าพยายามกระทำสืบต่อกันมาทุกยุคทุกสมัย ทั้งนี้เพื่อให้สามารถรักษาตัวและมีความสุขความสำเร็จในการครองชีวิต ทั้งให้ สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ด้วยความผาสุกสงบ ดังนั้น ถึงแม้เราจะอยู่ใน ท่ามกลางความเจริญรุดหน้าแห่งยุคปัจจุบันอย่างไร เราก็ทอดทิ้งการศึกษา ทางด้านจิตใจและศีลธรรมจรรยาไปไม่ได้ ตรงข้าม เราควรเอาใจใส่สั่งสอนกันให้หนักแน่นทั่วถึงยิ่งขึ้น เพื่อให้มีความคิดความเข้าใจถูกต้องสอดคล้องกับสภาพการณ์แวดล้อมทั้งหลายที่วิวัฒนาไปไม่หยุดยั้ง. . .

พระราชดำรัส
พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในพิธีเปิดสัมมนา เรื่อง "การพัฒนาสังคมในด้านศีลธรรมและจิตใจ"
ซึ่งสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยจัดให้มีขึ้น
ณ โรงแรมนารายณ์ กรุงเทพมหานคร
วันเสาร์ที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๑๖


.การศึกษาเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญยิ่งของมนุษย์ คนเราเมื่อเกิดมาก็ได้รับการสั่งสอนจากบิดามารดา อันเป็นความรู้เบื้องต้น เมื่อเจริญเติบโตขึ้นก็เป็นหน้าที่ของครูและอาจารย์สั่งสอนให้ได้รับวิชาความรู้สูง และอบรมจิตใจให้ถึงพร้อมด้วยคุณธรรม เพื่อจะได้เป็นพลเมืองดีของชาติสืบต่อไป. . .

พระบรมราโชวาท
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตและนักศึกษาวิทยาลัยวิชาการศึกษา
วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๐๕


สังคมและบ้านเมืองใดให้การศึกษาที่ดีแก่เยาวชนได้อย่างครบถ้วนล้วนพอเหมาะกันทุกๆ ด้าน
สังคมและบ้านเมืองนั้นก็จะมีพลเมืองที่มีคุณภาพ 
ซึ่งสามารถธำรงรักษาความเจริญมั่นคงของประเทศชาติไว้ และพัฒนาให้ก้าวหน้า ต่อไปได้โดยตลอด 
ผู้มีหน้าที่จัดการศึกษาทุกๆ คนจึงต้องถือว่า 
ตัวของท่านมีความรับผิดชอบต่อชาติบ้านเมืองอยู่อย่างเต็มที่ ในอันที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เที่ยงตรง 
ถูกต้อง สมบูรณ์โดยเต็มกำลัง จะประมาทหรือละเลยมิได้ 
เพราะถ้าปฏิบัติให้ผิดพลาดบกพร่องไปด้วยประการใดๆ ผลร้ายอาจเกิดขึ้นแก่ส่วนรวม
และประเทศชาติได้มากมาย ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันสร้างเสริมรากฐานชีวิตอันแข็งแรงสมบูรณ์ให้แก่เยาวชน ทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และความรู้ความฉลาด 
สำคัญที่สุด จะต้องฝึกฝนอบรมให้รู้จักผิดชอบชั่วดี รู้จักตัดสินใจด้วยเหตุผล และรู้จักสร้างสรรค์ตามแนวทางที่สุจริตยุติธรรม. . .

พระบรมราโชวาท
พระราชทานแก่คณะครูและนักเรียนที่ได้รับพระราชทานรางวัลฯ
ณ ศาลาดุสิดาลัย
วันจันทร์ที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๒๔


ความเจริญนั้น ต้องพร้อมด้วยเครื่องมือเครื่องใช้ประการหนึ่ง วิชาความรู้ประการหนึ่ง
และจิตใจสูงประการหนึ่งคือถ้าเราต้องการจะทนุบำรุง ส่งเสริมกำลังของเราให้เข้มแข็ง 
เมื่อเรามีเงิน ก็จะจัดซื้อหาเครื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ นานาชนิดที่มีคุณภาพดี 
มาเพิ่มพูนให้มากยิ่งขึ้นเพียงใด ก็ย่อมจะทำได้ หรือถ้าเราต้องการจะส่งเสริม 
สมรรถภาพในทางความรู้ วิทยาการ ใดๆ ให้ทันเทียมกับอารยะประเทศ เราก็จัดส่งคนของเรา 
ให้ออกไปศึกษาค้นคว้า และหาอุปกรณ์ต่างๆ ประกอบวิทยาการแผนใหม่ๆ 
ในต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ปรับปรุงส่งเสริมสมรรถภาพของเรา ให้เจริญเทียมทันเขาได้ 
ซึ่งความเจริญดั่งกล่าวมาแล้วนี้ เราสามารถจะซื้อหาด้วยเงินได้ แต่ความเจริญทางจิตใจนั้น 
เราจะซื้อด้วยเงิน เป็นจำนวนเท่าใดๆ ไม่ได้ ความเจริญทางจิตใจนี้ จึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งนัก 
เพราะเป็นหน้าที่ของแต่ละคน ที่จะต้องทำตัวของตนเองให้ดี เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม. . .

พระบรมราโชวาท
ในวันพิธีสวนสนาม และพระราชทานธงชัยประจำกองโรงเรียนตำรวจภูธร ภาค ๔


ท่านทั้งหลายควรจักได้เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม ที่จะปฏิบัติงานประสานกับบุคคลอื่นฝ่ายอื่นอย่างขะมักเขม้นและฉลาดเหมาะสม. ในการนี้ ท่าน จะต้องทำความคิดและจิตใจให้เปิดกว้าง แต่หนักแน่น มีเหตุผล มีวิจารณญาณ. พร้อมกันนั้น ก็ต้องมีความจริงใจ เห็นใจ และเมตตาปรองดองกัน โดยถือประโยชน์ส่วนรวมร่วมกันเป็นวัตถุประสงค์เอก. ที่สำคัญอีกข้อหนึ่ง จะต้องพยายามขจัดความดื้อรั้น ถือตัว ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ส่วนน้อยออกให้ได้ ไม่ปล่อยให้เข้ามาครอบงำทำลายความคิดจิตใจที่ดีงามของตน. แล้วท่านจะสามารถปฏิบัติการงานทุกอย่างได้ด้วยความราบรื่น เบิกบานใจ อย่างมี ประสิทธิภาพ และประสบผลสำเร็จตามที่ปรารภปรารถนาทุกสิ่งในที่สุด. . .

พระบรมราโชวาท
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร แก่บัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันเสาร์ที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๒๙

.ในชีวิตทุกวันๆ ก็ได้มีโอกาสเข้าโรงเรียน ก็หาความรู้ แล้วมีโอกาสที่จะได้เห็นชีวิตของตัวเองและของคนอื่น ขอให้ถือว่าเป็นอาหารทั้งนั้น เป็นอาหารสมอง และเมื่อได้รับอาหารแล้ว ให้ไปพิจารณา คือไปไตร่ตรอง ไปคิดให้ดี ถ้าทำเช่นนี้แล้ว ทุกคนจะสามารถที่จะสร้างตัวเองให้แข็งแรง เพื่อที่จะทำประโยชน์แก่ตนเอง สร้างบ้านเมือง สร้างท้องที่ของตัว สร้างตนเองให้เจริญตามที่ทุกคนต้องการ. . .

กระแสพระราชดำรัส
พระราชทานแก่คณะเยาวชนชายหญิงจากถิ่นทุรกันดาร
ในเขตปฏิบัติการของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ต่างๆ รวม ๒๔ จังหวัด พร้อมด้วยพี่เลี้ยงและเจ้าหน้าที่
ณ ศาลาดุสิดาลัย พระราชวังดุสิต
วันศุกร์ที่ ๖ เมษายน ๒๕๑๖

ขอบคุณข้อมูลและภาพจากเว็บไซด์ 

ไม่มีความคิดเห็น: