วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555

ความเงียบคือความเสียใจ และอภัยหยุดใจที่รุ่มร้อน



ในบางบทตอนของช่วงเวลา ความเงียบงันของตัวเอง คือ ความเสียใจ 
ความเสียใจอาจเกิดขึ้นจาก..ผลของปัญหา ทั้งโดยตรงและทางอ้อม 

แต่ในบางบทบางตอน พูดเสียงดังฟังชัด  ทั้งที่ผู้คนรอบข้างกำลังรุ่มร้อนใจ
มิใช่กำลังซ้ำเติมความรู้สึกของใคร เพียงแต่ฉันกำลังจะบอกตัวเองว่า..
ฉันไม่เสียใจหรือหวั่นไหวในคำพูดของตัวเอง   ไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น 
เพราะ..ได้ทำในสิ่งที่ดีและถูกต้องที่สุด..
บางครั้งเพียงอยากสะกดจิตให้ได้คิดว่า..คุณ เขา หรือใครคนนั้น กำลังทำอะไรอยู่ ภายใต้ภาวะอารมณ์ที่กรุ่นๆ ภายใต้อารมณ์ที่มิได้กลั่นกรองความถูกต้องอย่างเป็นธรรม


หรือในบางบทตอนของชีวิต..ความเจ็บปวดในใจ
ได้กระตุ้นใจเต้นแรงกว่าปกติ
ได้กระตุ้นอารมณ์โกรธ เกลียด กระทบใจอย่างรุนแรง ไม่ต่างจากสายน้ำที่เย็นเฉียบ แต่พลังสายน้ำไหลเร็วและแรง กระทบโขดหิน กระทบสิ่งกีดขวาง บางครั้งกระชากทุกสิ่งที่ขวางทางไปอย่างรวดเร็ว บางครั้งเจอโขดหินที่แข็งแรงกว่า แรงกระท้อนกลับสาดกระเซ็นกระทบสิ่งข้างตัวโดยไม่ตั้งใจ 


ในสรรพสิ่งที่เป็น อยู่ คือ บนโลกใบนี้ ไม่มีอะไรนิ่งสงบอยู่บนความเป็นธรรม 
สายลม แสงแดด หรือสายน้ำ ต่างก็มีพลังยิ่งใหญ่ ทำลายกันและกันในยามอารมณ์แปรปรวน
ฉันได้เพียงแคิดภาวนา ถ้าทุกสิ่งอยู่อย่างสงบ ไม่ร้อน ไม่หนาว อย่างเช่นพระจันทร์ 
ก้าวผ่านไปพร้อมกับเวลาโดยไม่ยี่หระกับความมืด หรือความเร่าร้อนแผดเผาของพระอาทิตย์
ความแปรปรวนทำร้ายหัวใจกันและกัน
ทั้งในใจฉัน ในใจเขา หรือในใจใครต่อใคร

ซึ่งฉันหวังใจว่าการให้อภัย..เป็นธรรมทาน..คงเป็นความเย็น ความเมตตาที่ล้นออกมาทางแววตา 
คงช่วยลด ช่วยหยุดความเร่าร้อน ของตัวเอง ของเขา ของใครต่อใคร 
ช่วยลดความเร่าร้อนของบรรยากาศ ของธรรมชาติ ของโลกลงได้ระดับหนึ่ง

"ความโกรธทำให้ปากกลายเป็นอาวุธของซาตาน 
ความเมตตา ไม่ว่าพูดดังหรือค่อยก็ได้ยินไปถึงหัวใจ."

ไม่มีความคิดเห็น: