วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ที่นี่ไม่มีครู


ชาติยืนยงอยู่ได้อย่างยั่งยืน
และมั่นคง..
นอกจากเรามีแผ่นดินให้อยู่อาศัยอย่างอิสระและเป็นเอกราชสืบมาตั้งแต่บรรพบุรุษ
เรามีพระเจ้าแผ่นดินเป็นพ่อ..แม่ของแผ่นดิน เป็นร่มโพธิ๋ ร่มไทรของปวงประชา เป็นประเพณีสืบทอดมาตั้งแต่โบราณกาล

เรามีทหารเป็นรั้วของชาติ ปกป้องคุ้มภัย ในทุกๆยามเมื่อชาติมีภัย เมื่อประชาชนต้องประสบกับความเดือดร้อนในการดำเนินชีวิต


เรามีครูเป็นแม่พิมพ์ของชาติ เป็นความหวัง เป็นอนาคตของชาติทุกยุคทุกสมัย

เมื่อเราเป็นเด็ก..แม้ไม่เคยคิดฝันเป็นครู แต่ครูของเราเป็นครูด้วยจิตวิญญาณที่เรายังคงระลึกถึงด้วยความรัก ศรัทธาและบูชา..ครูทุกๆคน
ประสบการณ์ในวัยเด็กเคยสอนเราร่วมซ้อมหลบภัยเมื่อ จคม.ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวณชายแดน..ครูของเราในวันนั้นยังอยู่กับเรา กับชาวบ้าน ไม่ทิ้งเราไปไหนทั้งที่ในยุคสมัยนั้น..
เรียกว่าไกลปืนเที่ยงทีเดียว

แม้เราไม่เข้าใจบทบาทของทหารแต่เมื่อบ้านเมืองประสบภัย..การเมือง ความมั่นคง ปัญหาชายแดน หรือแม้แต่บ้านเมืองประสบปัญหาอุทกภัยอย่างรุนแรง ทหารคือกำลังหลัก ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญและองอาจ เสมอมา



ยุคเมื่อสมัยเราเป็นเด็กและยุคสมัยเราเป็นผู้ใหญ่..ความรู้สึกนึกคิด..จิตวิญญาณของผู้ปฏิบัติหน้าที่เปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปมากหลายแง่หลายมุม หลายทัศนคติ



หลังจากสถานการณ์ก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องสูญเสียบุคลากรครูไปหลายท่าน ทำให้ครูต้องตัดสินใจย้ายออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วนจำนวนมาก ทำให้โรงเรียนขาดครูชาวไทยพุทธ ทำให้นักเรียนขาดขวัญกำลังใจอย่างยิ่งยวด

ครูประกาศต่อหน้าผู้ปกครอง นักเรียนและฝ่ายรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงอย่างชัดเจน
"ขอให้นักเรียนอดทนอีก ๒ เดือน..สอบและปิดเทอม
ครูไม่ทิ้งนักเรียนแต่ครูขอไปก่อน"

ในห้วงเวลาวันเดียวกัน..ในสถานการณ์เดียวกัน

รั้วของชาติ ผู้เสียสละเวลา ครอบครัวและชีวิต ลุกขึ้นประกาศวอนขอครูเสียงดังฟังชัดเช่นกันว่า
"ในเมื่อขอให้นักเรียนอดทน..อีก ๒ เดือน..ในฐานะที่เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ขอให้ครูอดทนอยู่กับนักเรียนอีก ๒ เดือนเท่านั้น ฝ่ายรักษาความปลอดภัยจะคุ้มภัย  อย่างเข้มแข็ง อย่างดีที่สุด"

และแม่พิมพ์ของชาติ..ปฏิเสธอย่างแข็งขัน 

ผู้สังเกตการณ์อย่างเรา..รู้สึกประทับใจ ภูมิใจและมั่นใจกับการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายทหาร มั่นใจในความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงโดยไม่เกี่ยงงอนใดๆ พร้อมจะร่วมรับ ร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

และ..ผิดหวังแทนเด็กๆ รู้สึกเจ็บปวดเมื่อคิดต่อไปว่า..เราจะฝากอนาคตของชาติไว้กับใคร?

เยาวชนลุกขึ้นถามผู้ใหญ่ว่า..เมื่อไม่มีครู..ใครจะสอนหนู?


ไม่มีความคิดเห็น: