วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556

บันทึก..เมื่อเจอโจรล่องหน


หัวใจฉัน...
สมองน้อยๆฉัน
หากมันตะโกน ออกมาได้มันคงต้องตะโกนว่า...รู้ไหม..ว่าฉันจะระเบิดแล้ว..

ทุกๆเวลา นาที และโมงยาม ของแต่ละวัน
เพียงแต่เวลาเริ่มต้น..เจอผู้คน ปัญหาก็เกิด
ไม่ใช่ แค่ได้ยินได้ฟังได้สัมผัส เรื่องราวเสียหาย ทั้งกระทบเราโดยตรง คนข้างตัว
เยอะ..จนเรารู้สึกล้าเกินจะรับไหว

แต่..พลังที่ยังกระตุ้นต่อมความอดทน คือ จิตสำนึกในการทำงาน เพื่อถวายตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ

เหตุเมื่อวาน ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๑

เวลา ๐๘.๑๕ น. ผจก.คนที่ ๑ พูดหน้าแถวต่อหน้าคนฟาร์มว่า เรารับลูกปลาทับทิมมาเลี้ยง จำนวน เท่าใด เป็นของฟาร์ม จำนวนเท่าใด เป็นของ ผอ. จำนวนเท่าใดและยังย้ำว่า..เป็นของส่วนตัว ผอ.จำนวนเท่าใด
เราก็ไม่รู้ว่า เขาจะพูดเพื่ออะไร ?

ผจก.คนที่ ๒ ออกไปชี้แจงแทน ผอ.ว่า ปลาส่วนของ ผอ.นำเงินกำไรไปทำกิจกรรมอะไรบ้าง เพื่อประโยชน์ของพี่น้องทุกคน ในยามใด โอกาสใดบ้าง  เพื่อไม่ให้กระทบ ต่อเงินรายได้

ผจก.คนแรก ก็แก้ตัวว่า เขาไม่เคยรู้เรื่อง เพราะเขาไม่เคยรู้เรื่องเงิน เข้า ออก ไม่รู้เรื่องรายได้ มีแต่การเงินและผอ. ทำกันอยู่ ๒ คน รุ้กันอยู่ ๒ คน.. ที่เขาบอกไม่รู้ คืออยากรู้ระดับไหน..?? ขอบอกนาทีนั้น หากเราออกไปพูดชี้แจงอีกคน คงต้องมีเรื่องวุ่นวายแน่นอน..และนาทีนั้น นึกอยากเป็นผู้ชาย(ว่ะ)จะชกปากคน อารมณ์นั้นทีเดียว..โชคดีที่เป็นหญิง...หยุดโทสะไว้ได้

สิ่งหนึ่งที่คนเรามักพลาด...พูดและกระทำสิ่งใดๆ ลงไปเพราะสนองกิเลส..ตัวโลภะ จนไม่ทราบว่า ผลสะท้อนกลับมาที่ตัวเองอย่างไร

ผัสสะผ่านไปอีกวัน

วันนี้ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๖
เราเข้าที่ทำงานตามปกติ
ก้มตัวลงไขกุญแจลิ้นชัก นานผิดปกติ ทำไมถถึงแหย่ลูกกุญแจไม่เข้าช่องสักที คิดว่าหยิบกุญแจผิดดอก ก็ในพวงกุญแจมันมีกุญแจสารพัด ทั้งกุญแจบ้าน ตู้ ลิ้นชักบ้างไรบ้าง จึงหยิบมาดู ก้มลงพิจารณาช่องเสียบกุญแจ..ถึงได้รู้ว่า ช่องเสียบกุญแจ..ตัน เพราะมีของแข็งสักอย่าง คาช่องเสียบอยู่...โอว....ลิ้นชักโต๊ะ ถูกงัด และใครสักคนพยายามใช้ของแข็งไข แต่ไขไม่ออก ของแข็งประเภทนั้นก็หักคาอยู่อย่างนั้น..ไม่รู้เป็นความโชคดี หรือ ดวงซวยของโจร ทิ้งหลักฐานไว้ให้ดูอย่างนั้น

เราอยากแจ้งตำรวจ แต่มีคนค้าน โทรฯหา ผอ.เพื่อแจ้งเหตุ และจะขออนุญาตแจ้งตำรวจ มาเก็บหลักฐานหาตัวขโมยที่มันมาขโมยเงิน โทรศัพท์ ๒ เครื่อง ล่าสุด..เรากลับจากกรุงเทพฯ เหรียญ เกือบพัน ก็หายไปจากลิ้นชักโต๊ะการเงิน ให้ได้สักที...แต่ผอ.ไม่รับสาย ไม่โทรฯกลับ โจรก็ลอยนวลอีกตามเคย...เอ่อ..ที่นี่เลี้ยงโจร ไว้เยอะ จะได้บุญเหมือนเลี้ยงคนไม่สมประกอบหรือเปล่านะ?

ปัญหา มักไม่ใช่ปัญหา สำหรับ คนบางคน
ปัญหาจึงไม่เคยได้รับการแก้ไข..คนเดือดร้อนก็เดือดร้อน..ซ้ำๆอยู่อย่างนั้น

วันๆ เจอผัสสะเยอะมาก เพราะต้องเจอผู้คนหลากหลายรูปแบบ
บางทีก็นิ่งจนน่ากลัว
บางทีก็หวั่นไหวจน..วุ่นวายและโวยวาย

น้องที่ทำงาน..ตั้งคำถามว่า...ถามจริงๆ ตอบหนู จริงๆนะ..พี่รู้สึกอย่างไรบ้างกับปัญหา..ที่เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน...ตอบจริงๆ"ไม่รู้จะพูดอย่างไร..พูดไม่ออกจริงๆ"

แต่ในยามที่อยู่ตามลำพัง...แอบสะอื้นกับตัวเองเช่นกัน
มีบ้างในบางคราว..ที่เราอ่อนแอ

ในช่วงที่เราหายไป กรุงเทพฯ ไม่ได้บอกเล่าใครมากมาย หลายคนมาซักถาม..ว่าไปทำไม จะกลับไปอยู่กรุงเทพฯหรือ?...เพราะพวกเขารู้จักเราดีพอก็ว่าได้นะ สังคมที่เราไม่คุ้นเคยหนึ่งละ..สังคมการช่วงชิงแย่งผลประโยชน์ในที่ทำงาน เลวร้ายและน่ากลัวกว่าที่เคยเจอก็อีกหนึ่งที่ไม่พึงจะทนได้

พรุ่งนี้...จะเจออะไรอีกไหม..ตั้งคำถามกับตัวเอง
...แต่ตั้งสติได้..ระลึกตัวรู้พร้อม..พระพุทธเจ้า สอนให้อยู่กับปัจจุบัน..

ไม่มีความคิดเห็น: