วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556

งานอาสากับความศรัทธาในหมู่คนไม่ศรัทธา

กำลังตัดสินใจว่าระหว่างเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมานานแล้ว
และอดีตที่เพิ่งผ่านมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะเริ่มเรื่องใดก่อน


เรื่องราวเมื่อหลายๆปีมาแล้วยังคงเป็นความทรงจำที่หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะหลายครั้งทีเดียว

และเรื่องราวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็เป็นความทรงจำจากการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนกับเพื่อน
พี่น้อง คอเดียวกัน อีกครั้งหลังจากห่างกับพวกเขามานานหลายปี

และหลายวันที่ผ่านมายุ่ง วุ่นวายกับงาน หวั่นไหวและว้าวุ่นกับพฤติกรรมคนจึงไม่ได้เริ่มต้นสักที

ขณะที่พิมพ์ก็ยังไม่ตัดสินใจ บ้างก็พักเปลี่ยนโหมดอารมณ์ไปดูข่าวผลการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ทั้งที่เราไม่มีสิทธิ์เลือกเขา เพราะเราเป็นคนชายขอบ ชายแดน 

ระหว่างทำงานก็หวั่นใจหลายอย่าง ถอดใจกับหลายเรื่อง 
...ความศรัทธา..ในหมู่คนขาดความศรัทธา 
กิเลสกระจายเต็มหัวใจของพวกเขา เล่นเกมต่อสู้กันในเชิงชีวิต
ใช้เล่ห์ เหลี่ยม เพทุบายเพื่อตัวเองได้มีที่ยืน

ทำให้เราขลาดที่จะต่อสู้อยู่เพียงลำพัง

แม้เบื้องหน้าจะเป็นดอกไม้สวยแต่เกสรมีพิษ
หันซ้ายพบเสือ หันขวาก็เจอปืนจ่อ
เหลียวมองหลังพบดาบคมกริบ


จิตอาสาอยู่ที่ใดก็มีความสุขที่ได้ทำ ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับที่ใดที่หนึ่งใช่ไหม?
โดยเฉพาะที่ๆมีแต่คนทำเพราะหน้าที่ หรือผลตอบแทนมากกว่าหัวใจเพื่อสาธารณะ
ทั้งยังจ้องฟัดเอ๊ยฟาดฟันเพื่อช่วงชิง..??

เมื่อเราได้ทำในสิ่งที่เรารัก และทำงานอาสากับคนที่มีหัวใจอาสาจริงๆ
สัมผัสมือ สัมผัสใจกันกี่ครั้งเราก็ยังรับรู้ถึงหัวใจที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความจริงใจเสมอ
รับรอง..มันไม่ใช่ความฝัน..เมื่อคนอาสาและอาสามาพบกัน..

และตัดสินใจ(เปลี่ยนโหมดอารมณ์) ณ บัดเดี๋ยวนี้..เก็บบทความเก่าๆ ที่เคยเขียนเชิงท่องเที่ยวเคยพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เมื่อหลายปีก่อนเก็บรวบรวมไว้เป็นเรื่องราวเดียวกัน ทั้งที่บทตอนและห้วงเวลาแตกต่างกัน แต่อาจบอกเล่าเรื่องราวและสถานการณ์ในหนหลังได้อย่างชัดเจน
เริ่มจากเรื่องแรก...เดินป่าดึกดำบรรพ์ วันฝนโปรยปราย
หลังจากเขียนบทความลงบล๊อกและถูกเลือกลงหนังสือพิมพ์โดยไม่เคยคาดหวังมาก่อน 
นาทีนั้นความตื่นเต้นจุกอก ไม่ต้องอธิบายเพราะอธิบายความรู้สึกดีใจมากๆ เช่นนั้นไม่ได้

เมื่อมีเรื่องแรก แรงบันดาลใจทำให้เกิดเรื่องที่ ๒ และเรื่องที่ ๓ เรื่องที่ ๔ ความตื่นเต้นดีใจค่อยเบาลง
 เบาลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังภูมิใจในสิ่งที่ทำแล้วมีความสุขเสมอ เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่เคยทำร้ายใคร มีแต่จะทำให้หลายๆคนมีความสุข และสนใจในสิ่งที่นำเสนอบ้าง

สายน้ำ สานใจกลางกรุง  เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างความเป็นเพื่อน พี่น้อง ที่เคยร่วมสู้ กอดคอกันเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย ท่ามกลางเสียงระเบิด เสียงปืนและแก๊สน้ำตาเมื่อ ๗ ต.ค.๕๑

วันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดหรือยามว่างมักหาเรื่องออกจากที่พักไปเรื่อยเปื่อย เก็บภาพถ่ายไว้และค้นหาข้อมูล เรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องราวที่สนใจ บอกเล่าด้วยความรู้สึกของตัวเอง 
วันหนึ่ง..นัดกับพี่สาวท่านหนึ่งซึ่งรู้จักบนโลกออนไลน์..นั่งรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปลพบุรีกัน ๒ คน ไปในที่ๆไม่เคยไป โดยใช้ข้อมูลจากหนังสือนำเที่ยว ท่ามกลางแดดร้อนเปรี้ยงๆ แต่ เรามีความสุขมาก เราเก็บเรื่องราวในประวัติศาสตร์จากโบราณสถานได้มากทีเดียว จนกระทั่งมีเรื่องที่ ๓ ราชธานี ที่ ๒ ลพบุรี

หลายๆคนอาจกลัวเพื่อนที่พบเจอกันในโลกออนไลน์ แต่สำหรับเราโลกออนไลน์ทำให้เจอเพื่อนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน จากรู้จักในนาม..ชื่อนั้น ชื่อนี้ หรือนามแฝงต่างๆ เราก็ค่อยๆ เปิดเผยตัวตนจนกระทั่งเป็นเพื่อน พี่น้อง พบปะ พูดคุยและทำงานอาสาหลายๆอย่างร่วมกัน บางคนเดินทางมาจากต่างประเทศเช่นพี่สาวท่านนี้..พี่แหม่ม กะปิสวิส อยู่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ วันหนึ่งเธอก็ส่งข้อความว่ากำลังเดินทางมาเมืองไทยวันนั้นวันนี้ อยากไปเที่ยวอุบลราชธานี เราจึงนัดหมายเพื่อนในโลกออนไลน์อีกท่านหนึ่งซึ่งเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยอุบลฯ เป็นมัคคุเทศน์กิตติมศักดิ์


เรื่องที่ ๔ ย่ำเยือนภูผาหิน เลียบเลาะริมโขง ความทรงจำที่ประทับใจริมฝั่งแม่น้ำโขง 
ทริปนี้เป็นอีกทริปหนึ่งที่จำฝังใจ ไม่ลืมไม่เลือน 
ความประทับใจในแต่ละครั้งคราวถูกถ่ายทอดออกมาเป็นบทความบ้าง บทกลอนบ้าง หรือแม้แต่บันทึกความทรงจำที่เก็บไว้เป็นความลับ
หลังจากนั้น..เราไม่ได้เขียนอีกเลยเนื่องจากระยะหลัง กระโดดลงทำงานจิตอาสาเยอะมาก วันทำงานอยู่กันดึกดื่น วันหยุดก็ร่วมทำกิจกรรม อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องเจ็บป่วยของคุณพ่อ

ผลนับคะแนนผู้ว่าฯกทม.เสร็จแล้ว ๑๐๐% ผู้ว่าฯคนเก่าจากพรรคเก่าแก่ได้กลับมาอีกสมัยทั้งที่ไม่มีผลงาน คนกรุงเทพฯคงใช้ตรรกะ..เลือกคนหรือพรรคที่ชั่วน้อยกว่า...
อุ๊บบบ..กลับเข้าโหมดการเมืองได้อย่างไร?

บางทีการไม่ผูกมัดกับองค์กร ไม่ผูกพันกับใคร เพื่อความสุขและอิสระโดยทำงานอาสาคู่กันไปไม่ต้องคอยระแวงหน้าระหวังหลัง น่าจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ



ไม่มีความคิดเห็น: