วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

โครงการหลวง"ปางอุ๋ง"เชียงใหม่

เพราะการเดินทางคือกำไรของชีวิต
เพราะการเดินทางคือการได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างช่วงเวลาที่หมุนผ่านไป


ต้นฤดูหนาวของปี มีแผนไปเที่ยวแม่ฮ่องสอน แต่ผู้เขียนเป็นไข้หวัดใหญ่รับฤดูกาล นอนซมเป็นอาทิตย์ แม้กระนั้นก็เถอะฟื้นไข้ได้ก็จัดกระเป๋าขึ้นรถทัวร์ไปกับเพื่อนๆโดยไม่มีเงื่อนไข

การเดินทางแต่ละครั้ง แม้บางครั้งเจออุปสรรคระหว่างทาง แต่ในขณะเดียวกันก็เก็บความประทับใจใส่ความทรงจำกลับมาเสมอ

"  ปางอุ๋ง"   เป็นศูนย์พัฒนาโครงการหลวง อยู่ในเขตตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในคราวนั้นเราเที่ยวแม่ฮ่องสอน แต่ช่วงเช้าตรู่ ได้นั่งรถย้อนจากแม่ฮ่องสอนไปยังปางอุ๋ง ขึ้นเขาขึ้นดอยฝ่าความมืดไปท่ามกลางความเหน็บหนาว ใช้เวลาเกือบ ชม.และนั่งรถกลับในช่วงสายๆ กลับมานั่งบ่นเสียดายว่า ทำไมเราไม่หิ้วเต๊นท์หรือติดต่อที่พักมานอนสัมผัสอากาศหนาวเหน็บ  จิบชาร้อน ๆ นั่งนับดาวในยามค่ำคืนและตื่นมาสูดบรรยากาศดีๆ  สดชื่น ให้เต็มปอด ที่นี่กันนะ


โครงการหลวงเกิดขึ้นได้อย่างไร?

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ไม่ทิ้งประชาชน  พระองค์เสด็จเยี่ยมประชาชนทุกแห่งหน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ห่างไกล การเดินทางจะลำบากลำบนเพียงใด
และในขณะที่พระองค์เสด็จไปเยี่ยมประชาชนในเขตภาคเหนือนั้น ได้ทรงทอดพระเนตรเห็นชาวเขามีวิถีการดำเนินชีวิตเป็นประเพณี คือเร่ร่อนไปอยู่ตามเทือกเขาสูงและห่างไกลสังคมเมือง แม้จะเป็นไปโดยธรรมชาติแต่ไม่เป็นผลดีกับตัวเขาเองและถิ่นที่อยู่อาศัย ขาดการศึกษา สุขพลานามัยที่ดี ขาดความเข้าในที่จะรักษาดิน น้ำและป่า  ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสายในภาคเหนือและเป็นแหล่งน้ำที่หล่อเลี้ยงเกษตรกรรมในเขตที่ราบลุ่มของภาคกลาง อีกทั้งชาวเขามีอาชีพทำการเกตรเลื่อนลอย มีการถากถางทำลายป่า เพื่อปลูกฝิ่นซึ่งเป็นสิ่งเสพติดมอมเมาทำลายเยาวชนของชาติอันเป็นอันตรายร้ายแรงของประเทศและโลก และยากต่อการเข้าไปควบคุม  และยากต่อการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต  เพราะชาวเขาไม่เข้าใจถึงเป็นชาติไทยเป็นคนไทย  และกฎหมายบ้านเมืองของประเทศที่ตนอาศัยอยู่นั่นเอง

จากที่ได้ทรงทอดพระเนตรเห็นถึงสภาพความเป็นจริงและทรงเข้าพระราชหฤทัยในปัญหาความทุกข์ยากของราษฎร  จึงทรงโปรดเกล้าฯ  ตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการส่วนพระองค์เมื่อปี  ๒๕๑๒  โดยใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากราษฎร  รัฐบาลไทย  และรัฐบาลต่างประเทศร่วมกัน  โครงการพัฒนาเศรษฐกิจชาวเขาไทยภูเขาขององค์การสหประชาชาติ  
โดยในระยะเริ่มแรกนั้นมีหม่อมเจ้าภีศเดช  รัชนี  เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการในตำแหน่ง
ผู้อำนวยการโครงการหลวง 


เป้าหมายของโครงการ

         ๑. ช่วยชาวเขาเพื่อมนุษยธรรม
         ๒. ช่วยชาวเขาโดยลดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ  คือ  ต้นน้ำลำธาร
         ๓. กำจัดการปลูกฝิ่น
         ๔. รักษาดินและใช้พื้นที่ให้ถูกต้อง  คือให้ป่าอยู่ในส่วนที่ควรเป็นป่า  และทำไร่สวนในส่วนที่ควรเพาะปลูก  อย่าให้ส่วนทั้งสองนี้รุกล้ำซึ่งกันและกัน
         ๕. ผลิตพืชผลเพื่อเพิ่มประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่ประเทศ

โครงการหลวงจึงเกิดขึ้นในเขต ๕ จังหวัดของภาคเหนือ และปัจจุบันได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว เช่นโครงการหลวงดอยอินทนนท์ โครงการหลวงดอยอ่างขาง ฯลฯ

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง 

บ้านปางอุ๋ง เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ ก่อตั้งขึ้นมานาน กว่า 50 ปี อยู่ในเขตตบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ มีชาวเขาเผ่าม้ง และกะเหรี่ยงอาศัยอยู่ เดิมเป็นพื้นที่ปลูกฝิ่น และทำไรเลื่อนลอย โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้ดูและรับผิดชอบ และประสานงานในการส่งเสริมการปลูกพืชให้เพียงพอแก่ความต้องการบริการบริโภคในท้องถินหาพันธ์พืชชนิดใหม่ทดแทนฝิ่น ส่งเสริมการทำเกษตรถาวร เน้นการปลูกไม้ผลเมืองหนาว ปลูกเป็นพืชระยะยาว และพัฒนาปัจจัยพื้นฐานให้มีมาตรฐานทางการสังคมที่ดีขึ้น

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง มีความสูงระดับน้ำทะเลระหว่าง 1.000-1.500 เมตร หรือ 48.068.54 ไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน
พื้นที่ราบอยู่ตามหุบเข้าต้นน้า ปางเกี๊ยะ
กิจกรรมการท่องเที่ยว ประกอบด้วยการชมแปลงผักปลูกมันฝรั่ง แครอท อโวกาโด ชมไร่ลิ้นจี่นอกฤดูกาล ชมแปลงผักสาธิตกาแฟราบิก้า ของชาวเผ่าม้ง ชมแปลงปลูกสมุนไพรและแปลงไผ่ 

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯพ่อหลวงของปวงชน ประชาชนจึงได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มีพื้นที่ทำมาหากิน เป็นหลักแหล่งมั่นคง ชาวเขาชนเผ่าต่างๆ ไม่ต้องระหกระเหเร่ร่อน ไปอยู่แห่งใดอีก

ชาวเขาชาวดอยมีการศึกษา มีคุณภาพชีวิตที่ดี  มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง ต้นไม้ ป่าเขา และต้นน้ำถูกทำลายน้อยลง 
ชาวเมืองก็มีแหล่งท่องเที่ยว ให้เลือกสรร ได้สัมผัสบรรยากาศสวยงาม ได้ความประทับใจยามไปเยี่ยมเยือนกลับมาเป็นรางวัลของชีวิต


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.thai-tour.com/wb/view_topic.php?id_topic=166



ไม่มีความคิดเห็น: