วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ตำรวจไทย ข้าฯของแผ่นดิน

ตำรวจไทยในสายตาของผู้เขียนในอดีตเคยเป็นความว่างเปล่า เพราะไม่เคยสัมผัสโดยตรง ไม่เคยรู้เห็นพฤติกรรมทั้งด้านดีและด้านเสีย นอกจากภาพของผู้รักษากฎหมายจับกุมผู้กระทำความผิด บ้างก็ว่าผิดจริง บ้างก็ว่าถูกยัดข้อหา ซึ่งผู้เขียนไม่ทราบว่าระหว่างตำรวจหรือผู้ถูกจับกุมใครพูดจริงและใครเท็จ..จึงกลายเป็นความว่างเปล่า


กระทั่งเมื่อผู้เขียนได้สัมผัสตรง ได้รู้และเห็นเพราะอยู่ในสถานการณ์เมื่อคราว ๗ ตุลาคม ๒๕๕๑ ตำรวจทำร้ายประชาชน โดยไม่มีความโกรธแค้นกันมาก่อน คราวนั้นผู้เขียนไม่เพียงแต่โกรธตำรวจเท่านั้นแต่เกลียดกันเลยทีเดียว ซึ่งไม่ได้หมายความว่าผู้เขียนเกลียดตำรวจทั้งหมด ถ้าคนใด ท่านใดมีความดีอยู่อย่างเสมอต้นเสมอปลายและได้สัมผัสว่าเป็นเช่นนั้นจริงก็ยังยินดีจะชื่นชมความดีในตัวคนๆนั้น

เมื่อวันสองวันที่ผ่านมาผู้เขียนมีความจำเป็นต้องไปติดต่อเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรหนองจิก ปัตตานี ช่วงเวลาที่ผู้เขียนไปถึงอีกไม่กี่นาทีเที่ยง ก็ทำใจอยู่ระดับหนึ่งว่าอาจต้องรอถึงบ่ายโมง เมื่อผู้เขียนไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจโผล่หน้ามาจากในห้องต่างๆทักทายด้วยอัธยาศัยดีๆและพูดเหมือนๆกันว่าติดเที่ยงพอดีรอนิดหนึ่งนะครับ ผ่านไปคนแล้วคนเล่า 

จนกระทั่งตำรวจนายหนึ่งใส่ชุดสีกากีทะมัดแมงแตกต่างจากตำรวจประจำสถานีตำรวจโดยทั่วไปเข้ามาทักทายและสอบถาม ผู้เขียนก็ได้บอกเล่าถึงจุดประสงค์ เขาก็ถามว่าเจอใครหรือยัง ก็ตอบว่ายัง คงมาติดเที่ยง ไม่มีใครอยู่แล้ว นายตำรวจท่านนี้ร้อง..อื๊อ..ไม่เกี่ยวกัน ข้าราชการไม่มีเวลาพัก 
คราวนี้ผู้เขียนเริ่มสำรวจว่าเขาเป็นใคร มียศตำแหน่งหรือดาวกี่ดวง แหม..พูดได้ถูกใจจัง                         แต่ไม่มีอะไรบอกผู้เขียนเลยนอกจากป้ายชื่อหน้าอกและป้ายบอกสังกัดว่าตำรวจตระเวณชายแดนแดนตรงแขนด้านขวา(หรือเปล่าจำไม่ได้)และขออภัยอีกครั้ง..จำชื่อท่านไม่ได้จริงๆ จำได้ว่านามสกุล..พวงน้อย เท่านั้นจริงๆ 
นายตำรวจท่านนี้นำเอาเอกสารจากเราไปเดินหาเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานตามห้องต่างๆ ไม่พบเขาและเดินออกมาบอกว่าหาเขาไม่เจอจริงๆ และในขณะเดียวกันท่านหันไปเห็นนายตำรวจผู้รับผิดชอบงานนั่งอยู่ไม่ไกลและสามารถมองเห็นกันจากจุดที่เรานั่งรออยู่ เขาจึงเรียกเราเดินตามไปหาและสั่งนายตำรวจคนนั้นว่า
จัดการให้หน่อย เพียงเล็กน้อยเท่านั้น รีบจัดการให้เดี๋ยวนี้เลย และก็หันมาบอกลาก่อนกลับเข้าห้องทำงานไปอย่างรวดเร็ว โดยผู้เขียนมองตามไม่ทัน
ตำรวจเจ้าของงานรีบจัดการสั่งงานงานผ่านผู้ใต้บังคับบัญชาให้ผู้เขียนในทันที ดังนั้นไม่ทันจะบ่ายงานของผู้เขียนเรียบร้อยโดยข้าราชการ ข้าของแผ่นดินตัวจริง เสียงจริง มิใช่มานั่งเสวนาฆ่าเวลารับเงินของแผ่นดินโดยไม่ละอาย แต่ไม่เท่านั้นในขณะที่ผู้เขียนมานั่งรอรับเอกสารคืนผู้เขียนเห็นและได้ยินประชาชนเข้ามาขอพบนายตำรวจคนเดียวกันกับที่ผู้เขียนมาติดต่อด้วยเรื่องอะไรไม่ได้ตั้งใจฟัง แต่ได้ยินนายตำรวจคนนั้นบอกกับประชาชนว่า..รอก่อนนะขอไปกินข้าวก่อน ยังไม่กินข้าวเลย ฉันกับน้องสาวมองหน้ากันและส่ายหน้าพร้อมกันโดยมิต้องพูดอะไร!!

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงานโดยมิเคยพักแม้ว่าพระองค์ท่านทรงพระประชวร

ในบทบาทของตำรวจที่ต้องทำงานเพื่อบำบัดทุกข์ให้ประชาชนท่านได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดหรือยัง?

แต่อย่างน้อยตำรวจในสายตาของผู้เขียนก็ยังมีตำรวจน้ำดี คนดี ที่ทำงานสมกับเป็นข้าราชการหรือข้าของแผ่นดิน ข้ารองบาทของในหลวงได้อย่างน่าภูมิใจดังเช่น..
นายตำรวจตระเวนชายแดนที่ผู้เขียนได้เจอในวันนี้

ไม่มีความคิดเห็น: